บทนำ
แต่สามีของฉัน อาเธอร์ สมิธ กลับใช้เวลาทั้งวันไปกับการดูแลเอาใจใส่ผู้หญิงคนอื่น ในขณะที่ลูกๆ ของฉันกลับปรารถนาให้ฉันหายไปจากชีวิตพวกเขาอย่างถาวร
ขณะที่ปลายนิ้วของฉันปัดฝุ่นออกจากเหรียญรางวัลโนเบลของแม่ ความตั้งใจอันแน่วแน่ก็ก่อตัวขึ้นในใจฉัน นับจากนี้ไป ฉันจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง!
สามีเหรอ ไม่ต้องการแล้ว ลูกๆ เหรอ ก็ไม่ต้องการเหมือนกัน
เมื่อกลับมาที่ห้องทดลอง ในที่สุดฉันก็ได้ยืนอยู่บนเวทีที่ทุกคนต่างแหงนมอง
แต่เมื่อฉันยัดใบหย่าใส่มือของอาเธอร์ เขากับลูกๆ ก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
ฉันสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุมของพวกเขา ทันใดนั้นอาเธอร์ก็ขาดสติ เขาทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าฉันด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เสียงของเขาแตกพร่าขณะอ้อนวอน “เอเลน... อย่าทิ้งผมไปเลยนะ...”
อัปเดตต่อเนื่อง......
บท 1
ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
เมื่อได้ยินเสียงตอบรับอัตโนมัติของผู้หญิงคนนั้น เอเลน บราวน์ก็เผลอกัดริมฝีปาก หัวใจของเธอยิ่งจมดิ่งลงไปอีก
ปอยผมสลวยสองสามเส้นตกลงมาปรกใบหน้าอย่างไม่เป็นทรงขณะที่เธอขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
วีรา สมิธ ลูกสาวของเธออาเจียนไม่หยุด พวกเขาตัดเรื่องอาหารเป็นพิษออกไปแล้ว และแม้จะลองยาทุกชนิดก็ไม่ได้ผล ตอนนี้จู่ๆ เธอก็หมดสติไป
นี่เป็นสายที่สี่แล้วที่เอเลนโทรหาอาร์เธอร์ สมิธ
ทุกครั้งเขาจะกดวางสายทันที
ทันใดนั้นวีราก็ไอออกมาสองครั้งจากบนเตียง
เอเลนรีบวางโทรศัพท์แล้วพุ่งเข้าไปหา “วีรา” เธอเรียกอย่างร้อนรน
ใบหน้าของวีราซีดเผือดขณะที่เธอลืมตาขึ้นช้าๆ และพูดอย่างยากลำบาก “หนูอยากไปหาเอมิลี่ วันนี้เธอมีงานเลี้ยงฉลองที่ชนะรางวัลการออกแบบ หนูอยากไปหาเธอค่ะ”
แววตาของเอเลนฉายแวบแห่งความเข้าใจขึ้นมาทันที
ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอาร์เธอร์ถึงไม่รับโทรศัพท์ วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองของเอมิลี่ โจนส์
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาไม่กลับบ้าน ทั้งๆ ที่เธอส่งข้อความไปบอกเขาแล้วว่าวีราอาเจียนไม่หยุด
ความขมขื่นแล่นปราดเข้ามาในใจของเธอ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เอมิลี่คือคนที่เขาปักใจรักมาโดยตลอด
หลายปีก่อน พ่อแม่ของเอมิลี่เสียชีวิตเพื่อช่วยอาร์เธอร์ไว้ และครอบครัวสมิธก็ได้อุปการะเอมิลี่ในวัยสิบหกปี
ถ้าเอเลนไม่ได้แต่งงานกับอาร์เธอร์ วันนี้เอมิลี่ก็คงจะได้เป็นคุณนายสมิธไปแล้ว
ทันใดนั้น จูเลียส สมิธก็พรวดพราดเข้ามาจากข้างนอก เกาะขาเอเลนแล้วร้องงอแง
“แม่ครับ ผมอยากไปงานเลี้ยงของเอมิลี่ด้วย! เมื่อไหร่แม่จะพาเราไปครับ”
เอเลนก้มลงมองจูเลียสแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้แม่ต้องพาวีราไปโรงพยาบาลนะลูก ลูกอยู่บ้านกับพี่เลี้ยงนะ อย่าวิ่งไปไหนล่ะ”
อาการอาเจียนของวีรารอช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว
เมื่อติดต่ออาร์เธอร์ไม่ได้ เธอก็ต้องพาลูกไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง
เอเลนดึงเสื้อแจ็กเก็ตจากตู้เสื้อผ้ามาห่อตัววีราไว้แน่น แล้วรีบอุ้มเธอลงไปชั้นล่าง
เธอยังไม่ลืมที่จะกำชับพี่เลี้ยง “จูเลียสซนมาก อย่าให้คลาดสายตานะคะ”
พี่เลี้ยงพยักหน้ารับทันที “ค่ะ คุณนายสมิธ”
ข้างหลังพวกเขา จูเลียสที่ไม่พอใจวิ่งตามมาพลางตะโกน “ผมไม่อยากอยู่บ้าน! ผมจะไปหาเอมิลี่!”
“เป็นเด็กดีนะลูก ตอนนี้แม่ไม่มีเวลาแล้ว!”
เอเลนรีบวิ่งไปเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลโดยไม่หันกลับไปมอง
การเดินทางจากบ้านไปโรงพยาบาลปกติใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง แต่วันนี้การจราจรดูจะติดขัดเป็นพิเศษ
เมื่อมองวีราที่หมดสติไปอีกครั้งในอ้อมแขน ความวิตกกังวลของเอเลนก็พุ่งสูงขึ้นจนถึงขีดสุด
เธอเคยผ่านการอบรมทางการแพทย์มาก่อน
เธอรู้ดีว่าการอาเจียนอย่างรุนแรงอาจทำให้ร่างกายเสียหายอย่างถาวรได้
หลังจากการเดินทางที่ทุลักทุเลและฝ่าฟันรถติด ในที่สุดเอเลนก็พาลูกมาถึงโรงพยาบาล แต่แล้วหัวใจของเธอก็หล่นวูบเมื่อเห็นฝูงชนที่แน่นขนัดอยู่ในล็อบบี้
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่คนอาเจียนหรือเป็นไข้ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางคนยืนพิงกันอย่างอ่อนแรง ไอออกมาเป็นครั้งคราว
บุคลากรทางการแพทย์ทำงานกันจนหัวหมุน ถึงขั้นต้องตะโกนใส่ฝูงชนเพื่อขอทาง
ความสงสัยอันเลวร้ายก่อตัวขึ้นในใจของเอเลน นี่ไม่ใช่อาการอาเจียนธรรมดา แต่เป็นการระบาดของไวรัส
เมื่อดูจากจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ลักษณะเด่นของไวรัสนี้คือการติดต่อได้ง่ายและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
เธอรีบดึงหน้ากากอนามัยของวีราให้กระชับขึ้น
ยิ่งสถานที่แออัดมากเท่าไหร่ การแพร่เชื้อของไวรัสก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
อาร์เธอร์คงยังไม่รู้ว่านี่คือไวรัส!
เมื่อตระหนักได้ดังนั้น เอเลนจึงอุ้มวีราด้วยแขนข้างหนึ่ง ขณะที่ใช้อีกมือที่ว่างส่งข้อความไปหาอาร์เธอร์ เพื่อเตือนเขาเกี่ยวกับไวรัสและบอกให้เขาป้องกันตัวเอง
ข้อความนั้นไร้การตอบกลับ ราวกับก้อนหินที่จมหายไปในทะเล
ถึงตอนนี้ จำนวนผู้ป่วยที่มารอรับการรักษามีมากกว่าขีดความสามารถของโรงพยาบาลไปมาก และหลายคนก็เริ่มแสดงอาการกระสับกระส่ายและหงุดหงิด
“หมอไปไหนกันหมด ออกมารักษาพวกเราสิ! ภรรยาผมอาเจียนมาสองวันแล้ว—เธอใกล้จะตายอยู่แล้วนะ!”
“ที่นี่ไม่มีใครดูแลเลยหรือไง”
“ช่วยด้วย! ลูกสาวฉันเพิ่งเป็นลมไป!”
เสียงตะโกนของใครบางคนจากในฝูงชนทำให้สถานการณ์ยิ่งโกลาหลมากขึ้น
เอเลนรีบพาวีร่าถอยไปหลบมุม พยายามหลีกเลี่ยงฝูงชนที่กำลังเบียดเสียดกัน
เธอมองไปรอบๆ และเห็นว่าเพียงไม่กี่นาทีก็มีคนล้มป่วยลงไปหลายคน หัวใจของเธอเต้นรัวขณะพยายามปลอบวีร่า
“วีร่า อดทนไว้นะลูก เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว!”
ดวงตาของวีร่ายังคงปิดสนิท ไร้การตอบสนองใดๆ
“วีร่า ได้ยินแม่ไหมลูก วีร่า!”
แววตาของเอเลนหดเล็กลงด้วยความกลัวขณะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน เธอใช้มืออันสั่นเทาอังจมูกเพื่อตรวจลมหายใจของวีร่า
เธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ลมหายใจแผ่วเบาและรวยรินเต็มที หากช้าไปกว่านี้...
เอเลนไม่กล้าแม้แต่จะคิดต่อ
โรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้คนจนไม่มีเตียงว่าง ไวรัสที่รุนแรงขนาดนี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
คนเดียวที่สามารถติดต่อหมอส่วนตัวได้คืออาเธอร์
เอเลนกัดฟันแน่น พยายามโทรหาเขาอีกครั้ง
รอบกายเธอเต็มไปด้วยเสียงผู้ป่วยที่ตะโกนโหวกเหวก ขณะที่แพทย์พยายามปลอบโยนพวกเขา ในอ้อมแขนของเธอคือลูกสาวที่นอนแน่นิ่งแทบไร้ชีวิต หัวใจของเอเลนราวกับกำลังถูกนาบอยู่บนแผ่นเหล็กร้อน
พอสายต่อติดในที่สุด เอเลนก็รีบพูดอย่างร้อนรน “ที่รัก ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ”
แต่สิ่งที่ทำให้เอเลนประหลาดใจก็คือ เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่โทนเสียงเย็นชาของอาเธอร์ แต่เป็นเสียงของเอมิลี่
“เอเลน ฉันเอง”
น้ำเสียงของเอมิลี่ฟังดูสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อน
“ตอนนี้อาเธอร์ไม่ว่าง เธอมีอะไรบอกฉันได้เลย”
ในเมื่อจนปัญญา เอเลนจึงตอบกลับไป “ช่วยให้อาเธอร์มารับสายหน่อยได้ไหมคะ ฉันต้องการให้เขาติดต่อหมอส่วนตัวของเขา วีร่าติดเชื้อไวรัสแล้วก็อาเจียนไม่หยุดเลย เธอต้องได้รับการรักษาด่วน”
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ”
ในที่สุดอาเธอร์ก็มารับสาย น้ำเสียงของเขาเจือความกังวล
“ทำไมจู่ๆ วีร่าถึงติดเชื้อไวรัสได้”
เมื่อไม่มีเวลาอธิบาย เอเลนจึงเร่ง “ตอนนี้ฉันกับวีร่าอยู่ที่โรงพยาบาล ให้หมอส่วนตัวของคุณไปที่บ้านเราโดยตรงเลยนะ อาการของแกหนักมาก—ถ้ายังอาเจียนไม่หยุด ชีวิตของแกอาจเป็นอันตรายได้”
อาเธอร์ตอบทันที “ได้ เดี๋ยวผมจะให้ผู้ช่วยไปจัดการให้ทันที”
เอเลนกำโทรศัพท์แน่น แววตาฉายแววไม่อยากจะเชื่อ
“แล้วคุณล่ะคะ”
วีร่าอาการสาหัสขนาดนี้
เขายังคิดจะอยู่ที่งานเลี้ยงฉลองของเอมิลี่ต่องั้นเหรอ
“ตอนนี้ผมไม่มีเวลา ถ้าคุณต้องการอะไร บอกผู้ช่วยของผมโดยตรงได้เลย”
น้ำเสียงเย็นเยียบของอาเธอร์ราวกับน้ำเย็นจัดถังใหญ่ที่สาดเข้าใส่หน้าเธอ
เธอพลันนึกขึ้นมาได้ว่าเอมิลี่ไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่กลับมาอย่างกะทันหันตอนที่เธอตั้งท้อง
ตลอดสี่ปีของการแต่งงาน ข่าวลือเกี่ยวกับพวกเขาสองคนก็ไม่เคยจางหายไปเลย
เพื่อเห็นแก่ลูกๆ และคุณย่าของเขา เธอก็ได้แต่อดทนเงียบๆ มาตลอด อาเธอร์เคยอธิบายว่าข่าวลือเหล่านั้นเป็นแค่เรื่องที่สื่อกุขึ้นเพื่อสร้างกระแส
เธอเชื่อเขา
เขายังเคยบอกอีกว่าลูกๆ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา
แต่ตอนนี้ความจริงอันโหดร้ายกลับปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ
ชีวิตของวีร่ากลับมีค่าน้อยกว่างานเลี้ยงฉลองธรรมดาๆ งั้นเหรอ
ช่างน่าขันและน่าสมเพชสิ้นดี
เอเลนไม่ทันสังเกตว่าสายตัดไปเมื่อไหร่ แต่สายของพี่เลี้ยงก็โทรเข้ามาทันที
“คุณผู้หญิงคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว—คุณหนูจูเลียสก็หายตัวไปเหมือนกันค่ะ!”
“ว่าอะไรนะ”
ความตื่นตระหนกวาบผ่านแววตาของเอเลน ขณะที่เธออยากจะรีบกลับบ้านตามสัญชาตญาณ
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าวีร่ายังอยู่ในอ้อมแขน เธอก็ทำได้เพียงบังคับตัวเองให้หยุดนิ่ง
“ฉันสั่งแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ดูแลเขาดีๆ” เธอตวาดถาม
พี่เลี้ยงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “คุณหนูจูเลียสเอาแต่งอแงอยากกินทาร์ตไข่ค่ะ ดิฉันเลยเข้าไปในครัวเพื่ออบให้ แต่พอกลับออกมา คุณหนูก็หายไปแล้ว”
เอเลนสูดหายใจเข้าลึก พยายามอย่างยิ่งที่จะสงบสติอารมณ์ “ไปตามหาเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ เรียกคนมาช่วยเยอะๆ เดี๋ยวฉันจะพาวีร่ากลับบ้านทันที”
“ค่ะ”
บทล่าสุด
#219 บทที่ 219
อัปเดตล่าสุด: 12/23/2025#218 บทที่ 218
อัปเดตล่าสุด: 12/23/2025#217 บทที่ 217
อัปเดตล่าสุด: 12/22/2025#216 บทที่ 216
อัปเดตล่าสุด: 12/22/2025#215 บทที่ 215
อัปเดตล่าสุด: 12/21/2025#214 บทที่ 214
อัปเดตล่าสุด: 12/21/2025#213 บทที่ 213
อัปเดตล่าสุด: 12/20/2025#212 บทที่ 212
อัปเดตล่าสุด: 12/20/2025#211 บทที่ 211
อัปเดตล่าสุด: 12/19/2025#210 บทที่ 210
อัปเดตล่าสุด: 12/19/2025
คุณอาจชอบ 😍
รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ
ปรเมศ จิรกุล หมอหนุ่มเนื้อหอม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เขาขึ้นชื่อเรื่องความฮอตฉ่า เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยน เทคแคร์ดีเยี่ยม และให้เกียรติผู้หญิงทุกคน ยกเว้นกับธารธารา อัศวนนท์
ปรเมศตั้งแง่รังเกียจธารธาราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า เพียงเพราะเธอแต่งตัวเหมือนผู้ชาย เขาเลยประณามว่าเธอเป็นพวกผิดเพศน่ารังเกียจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าหมอสาวมาดทอมหัวใจหญิงนั้นจะเฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เพราะเจียมตัวดีว่าอีกฝ่ายแสนจะรังเกียจ และดูเหมือนคำกล่าวที่ว่าเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นจะใช้ไม่ได้ผลสำหรับคนทั้งคู่
กระทั่งดวลเหล้ากันจนเมาแบบขาดสติสุดกู่ เขาจึงเผลอปล้ำแม่สาวทอมที่เขาประกาศว่าเกลียดเข้าไส้ หนำซ้ำยังโยนความผิดว่า ‘ความสัมพันธ์บัดซบ’ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยัยทอมตัวแสบยั่วเขา เมากับเมาเอากันแล้วไง น้ำแตกก็แยกทาง ทว่าพออีกฝ่ายหลบหน้าเขากลับร้อนรนกระวนกระวาย ครั้นทนไม่ไหวหมอหนุ่มจอมยโสก็ต้องคอยราวี และตามหึงหวงเมื่อมีใครคิดจะจีบ ‘เมียทอม’ ของเขา แต่กว่าจะรู้ตัวว่าขาดเธอไม่ได้ เธอก็หายไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว
ลิขิตรักนายสุดหื่น
เรื่องย่อ....
“คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…”
“ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…”
“ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…”
“หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…”
“อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้”
“ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”
“อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….”
โซ่สวาทร้อนรัก
“มันเรื่องของฉัน ตัวฉันของฉันนมก็นมของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“ก็สิทธ์ของความเป็นผัวคนแรกของคุณไง นมคุณน่ะเป็นของผม ทั้งตัวคุณก็เป็นของผม...เข้าใจไหม? ”
คาเรน เซนโดริก อายุ 32 ปี
หนุ่มลูกครึ่งอเมริกา-อาหรับ ที่มีบุคลิกสุขุมเยือกเย็น เจ้าเล่ห์แสนกล และยังเป็นCEO บริษัทไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ปชื่อดังในอเมริกาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ในแต่ละวันจะมีสาวๆมาคอยปนเปรอสวาทให้เขาในทุกค่ำคืน และในที่สุดเขาก็จัดการเหยื่อสาวผิดคน เพราะคิดว่าเธอคือคนที่ลูกน้องหามา จึงใช้เงินปิดปากเธอให้จบเรื่อง แต่ใครจะคิดว่าเขาต้องมาเจอกับเธออีกครั้ง
ทับทิม รินลดา ชลวัตร อายุ 25 ปี
สาวแว่นช่างเพ้อ ที่มีความสามารถรอบด้าน พ่วงด้วยวาจาอันจัดจ้านไม่ยอมใคร จนถูกคัดเลือกให้ไปดูงานที่ดูไบ ต้องมาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสาวสวยสุดมั่นสำหรับงานครั้งนี้ แต่พอไปถึงเธอกลับถูกซาตาน พรากพรหมจรรย์ไปตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง และซาตานคนนั้นก็ดันเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อต้องเจอกับเขาอีกครั้ง
ขย่มรักมาเฟีย
"ความทรงจำบ้าบออะไรของคุณ ฉันไม่อยากจะทบทวนอะไรทั้งนั้น ออกไปห่างๆฉันเลยนะ...อื้อ...ปล่อยฉันสิ ไอ้มาเฟียบ้า...จะมายุ่งกับฉันทำไมห้ะ!...."
"ไม่ยุ่งกับเมีย...แล้วจะให้ไปยุ่งกับหมาแมวที่ไหนล่ะหึ...ไม่ได้เจอตั้งนาน...คิดถึงดุ้นของผมไหม...อยากจะอม...อยากจะเลียเหมือนที่เคยทำหรือเปล่า...."
"ไม่....ถ้าคุณเสี้ยนมากนักก็ไปเอากับผู้หญิงของคุณสิ..ผู้หญิงพวกนั้นเขาเต็มใจทำให้คุณแบบถึงอกถึงใจ คุณจะมาบีบบังคับฉันให้เสียแรงทำไม"
"ก็ผู้หญิงพวกนั้นมันไม่ตื่นเต้นเหมือนกับคุณนิ....ผมชอบใช้แรง...โดยเฉพาะกับคุณ....ชอบเยแรงๆ....ตอกแบบจุกๆ และที่สำคัญผมชอบตอนที่คุณครางเหมือนคนกำลังจะตายตอนที่ผมกำลังเอาคุณ"
"ใครโดนคุณเอาก็ต้องครางเหมือนจะตายกันทั้งนั้นแหละ ใหญ่เกินบ้านเกินเมืองซะขนาดนั้น ไปผู้หญิงเอาพวกนั้นไป อย่ามายุ่งกับฉัน...อื้อ...ปล่อยฉันสิ"
"ทำไมชอบไล่ให้ผมไปเอาคนอื่นนักหึ....ไม่เข้าใจเหรอว่าผมจะเอาคุณ....ผมชอบหอยฟิตๆของคุณมากกว่า...ผมหลง...ผมคลั่งไคล้...และผมก็อยากจะได้มันอีก...หลายๆครั้ง....ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....จนกว่าหอยน้อยๆของคุณมันจะรับไม่ไหว...อืม....ไม่ได้เอามานานแล้ว....คุณให้ใครมาซ้ำรอยผมหรือเปล่า...."
เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD
หนุ่มหล่อ ลูกชายมาเฟียตระกูลใหญ่ผู้เย็นชาไร้ความรู้สึก เขาถูกผู้หญิงหลายคนตราหน้าว่าไร้หัวใจ ถึงอย่างนั้นเพราะความหล่อก็ยังมีผู้หญิงอีกมายมายที่พร้อมจะขึ้นเตียงกับเขา
แต่มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารังเกียจและไม่อยากเจอหน้าถึงแม้เธอจะพยายามเท่าไรก็ไม่มีวันมีค่าในสายตาของเขา
“อยากเป็นเมียฉันมากไม่ใช่หรือไง ฉันกำลังจะสนองให้เธอเป็นอยู่นี่ไง แต่ไม่ใช่ในฐานะเมียแต่ง อย่าคิดหวังสูงเกินไป!!”
มิลิน
เธอถูกคนที่ตัวเองแอบรักมาตั้งแต่เด็กรังเกียจเพียงเพราะเขาคิดว่าแม่เธอคือเมียน้อยของพ่อเขา ถึงแม้เขาจะไม่สนใจใยดีอะไรเธอเลย แต่เธอก็ยังรักเขาหมดหัวใจ
ทั้งที่คิดว่าหากยอมยกร่างกายให้เขาแล้วจะได้ความรักกลับคืนมา แต่สุดท้ายก็ได้เพียงความเกลียดชัง
I’m evil guy ปีศาจตัวร้ายพ่ายรัก
3P อาหมวยโดนอาเฮียใหญ่ทั้งสองจับทำเมีย
ทาสสวาทอสูรเถื่อน
“แพงไปหรือเปล่า สำหรับค่าตัวของคุณอย่างมากก็คืนละแสน” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับมองร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนตักของเขาด้วยสายตาหื่นกระหาย เขายอมรับว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอสวยและที่สำคัญนมตูมชะมัดยาก
มันโดนใจเขาจริงๆ ยิ่งสเต็ปการอ่อยของผู้หญิงคนนี้เขาก็ยิ่งชอบ เพราะมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอกำลังทำ
“ถ้าคุณไม่สู้ก็ปล่อยฉันสิคะ ฉันจะได้ไปหาคนที่เขาใจถึงกว่าคุณ” พิชชาภาพูดจบก็เอามือยันหน้าอกของฟรานติโน่แล้วทำท่าจะลุกออกจากตักของเขา ก่อนจะถูกมือใหญ่รั้งเอวไว้ไม่ให้ลุกขึ้น
“ได้ ผมจะให้คุณคืนละล้าน แต่คุณต้องตามใจผมทุกอย่าง” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมเสียเงินหนึ่งล้านบาทง่ายๆงั้นเหรอ คอยดูเถอะเขาจะตักตวงจากเธอให้คุ้มสมราคาที่เขาต้องจ่ายไป
เมียขัดดอก
"คุณหมอคะฉันขอร้องล่ะคุณหมอช่วยแม่ฉันด้วยเถอะนะ" หญิงสาวขอร้องอ้อนวอนถึงขั้นยกมือขึ้นมากราบไหว้
"ทางเราช่วยได้เท่าที่ช่วยจริงๆ" ถ้าเขาทำแบบนั้น โรงพยาบาลของเขาอาจจะถูกฟ้องได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีเลย และมันก็ไม่คุ้มกับการเสี่ยง
"ฉันขอร้องล่ะค่ะ จะให้กราบเท้าฉันก็ยอม"
"คุณอย่าทำแบบนี้เลย"เขารีบพยุงร่างของหญิงสาวที่กำลังจะคุกเข่าลงตรงหน้าให้กลับขึ้นมายืนใหม่อีกครั้ง
"คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันเคยเรียนหมอมาค่ะ ฉันคงพอช่วยงานคุณได้ไม่มากก็น้อย" เพราะเธอเคยเรียนมาด้านนี้ก็เลยรู้ว่าใครที่สามารถจะช่วยแม่ของเธอได้ และก็รู้ด้วยว่ามันเสี่ยงมากถ้าจะทำแบบนี้
"คุณก็เคยเรียนหมอมา คุณก็คงจะรู้ผมคงช่วยไม่ได้"
"ถ้าเปลี่ยนจากช่วยงานเป็นเอาร่างกายของฉันแลกเปลี่ยนได้ไหมคะ"
"คุณพูดอะไร"
"ถ้าคุณหมอยอมช่วยผ่าตัดให้แม่ฉันฉันจะยอมมอบร่างกายให้คุณค่ะ" เธอมีคนที่จะมาบริจาคอวัยวะแล้ว เหลือแค่การผ่าตัดเท่านั้น..
BAD FIANCE พันธะรักคู่หมั้นใจร้าย
ดิบ เถื่อน รัก
เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนกับ ‘อดีตเพื่อนรัก’ ที่กลายเป็นเพื่อนชัง เพื่อนที่เธอแอบรักเขาเพียงแค่ข้างเดียว เพื่อนที่ตราหน้าว่าเธอคือคนที่ทำให้ผู้หญิงที่เขารักจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
“ตั้งแต่วันนี้เราขาดกัน! มึงไม่ใช่เพื่อนกูอีกต่อไป อ้อ…แล้วก็จำเอาไว้ด้วยล่ะ ว่าแม้แต่แอบรักกูมึงก็ไม่มีสิทธิ์” เขาประกาศตัดความสัมพันธ์อย่างสิ้นเยื่อขาดใย วาจาทำร้ายหัวใจอย่างแสนสาหัสทำให้เธอน้ำตารื้น
“จอมมึงฟังกูก่อนได้ไหม”
เสียงสั่นเครือพยายามเอ่ยวิงวอน จากนั้นเธอก็วิ่งตามร่างใหญ่ไป แล้วยื้อแขนกำยำเอาไว้สุดแรง ก่อนจะถูกผลักลงไปกองกับผืนทรายร้อนๆ อย่างไร้ปรานี ครั้นจะตามไปยื้ออีกหนก็ต้องผงะ หลับตาปี๋ กลั้นหายใจตัวแข็งทื่อ เมื่อจอมโหดควักปืนออกมายิงเฉียดใบหูไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด
ปัง!
“ออกไปจากชีวิตกูซะ! แล้วก็อย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก!”
เขาเค้นเสียงลอดไรฟัน ขณะทอดสายตาชิงชังมาให้ จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้คนถูกเขาผลักไสออกไปจากชีวิตร้องไห้ปานปิ่มจะขาดใจ
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก













